" กดยังๆ" เสียงนี้ดังมาจากคุณยายวัยหกสิบกว่า ประโยคนี้จะเกิดทุกวันสิ้นเดือนเป็นประจำมาเป็นระยะเวลา สี่สิบปีเศษได้
" แหมเธอ จะลืมสักเดือนได้ไหมนี่ " เสียงตอบมาจากคุณตาวัยเจ็ดสิบเศษ เชิงสัพยอกคุณยาย ถึงพฤติกรรมนี้ที่ทำมาอย่างสม่ำเสมอไม่เคยลืมเลือนเลยสักเดือนเดียว
ท่านผู้อ่านคงสงสัยว่า ไอ้คำว่า " กดยังๆ" มันคืออะไรใช่ไหมคะ
เป็นการทวงเงิน ที่คุณยายทวงคุณยายามถึงวันเงินเดือนออก ที่จะไปกดถอนเงินจากเครื่องเอทีเอ็ม
คุณยาย เป็นที่รู้ดีกันว่าขี้เหนียวหนักหนา คุณยายไม่ใช่ไม่มีเงินเดือนนะคะ แต่คุณยายคนนี้ไม่เคยใช้เงินเดือนตัวเองเลยตั้งแต่เรียนจบและรับราชการมา ใช้แต่เงินเดือนคุณตามาโดยตลอด ส่วนเงินเดือนคุณยายน่ะเหรอ เก็บเข้าธนาคาร เป็นทุนสำรองมาโดยตลอด
หลายคนคงคิดว่า คุณยายคงเป็นสตรีผู้เพียบพร้อมเพราะเก็บเงินเก่งขนาดนี้ คงเป็นแม่ศรีเรือนของแท้
เปล่าเลยค่ะ คุณยาย ทำอาหารไม่เป็น เรื่องทำครัวที่คุณยายถนัดที่สุดคือ ทำน้ำปลาพริก เครื่องจิ้มที่อยู่คู่ครัวไทยมาช้านาน
ส่วนคุณตาน่ะยอดบุรุษ ทำอาหารได้มากมาย อยากจะทานอะไรหรือ คุณยายสั่ง คุณตาจัดให้
คุณยายสมัยสาวๆ เคยแม้กระทั่งไปเรียนตัดเสื้อผ้า แต่เรียบจบมาแล้ว ตัดเพียงเสื้อตุ๊กตาให้ลูกสาวเล่นแต่งตัวตุ๊กตา แต่คุณตาเอาตำราคุณยายมาอ่าน แล้วหัดตัดเสื้อ กระโปรง สูท และชุดเด็กๆ ให้หลานๆใส่ แม้กระทั่งตัดกระโปรงทำงานให้คุณยายได้
งานซ่อมของบ้าน ตั้งแต่เดินสายไฟฟ้า ต่อท่อน้ำ ทำเฟอร์นิเจอร์ ทำบ้านหมา ทาสีบ้าน สร้างบ้านหมาแบบศาลาไทย คุณตาก็สามารถ
ทุกงานคุณยายก็ช่วยมากมายคือ ติชม สั่งการให้เปลี่ยนแปลง ติจนคุณตาแก้ไขให้ถูกใจสวยงาม อันนี้นับเป็นงานถนัดของคุณยาย
ภาพคุณตาซอยผมให้คุณยาย ก็เป็นภาพที่ลูกหลานเห็นกันเป็นประจำ คุณตาคุณยายคู่นี้เป็นคู่แท้ที่ทะเลาะกันตลอดเวลา แต่ไม่เคยโกรธกันจริงจัง เสียเถียงกันเกิดเป็นประจำทุกวัน
ยามใดที่คุณตาป่วยคุณยายมักจะบ่นว่า
" วันนี้บ้านมันเงียบไป"
คุณยายผู้มีกฎประจำตัวของชีวิตคู่ว่า " หากคิดจะแต่งงานกับใครแล้ว อย่าปิดบังตัวเอง จงเป็นตัวของตัวเอง สิ่งไม่ดีอะไรแสดงออกมาให้หมด ให้เขารู้ว่า เราทำอะไรไม่เป็น นิสัยแย่อย่างไรบ้าง เพราะว่า ในชีวิตคู่นั้น หากคู่ใดต้องอยู่กันอย่างใช้ความอดทนแล้ว มันไม่จีรัง เพราะคนเราไม่สามารถฝืนตัวเองไปได้ตลอดชีวิต จงให้เขายอมรับเราในสิ่งที่เราเป็น ไม่ว่าจะดีเลวอย่างไร สำคัญที่ยอมรับกันได้"
หลายครั้งลูกหลายอาจได้ยินคำว่าแรงๆจากคุณตาที่ว่าคุณยายว่า " เธอทำอะไรเป็นมั้งไหมเนี่ย จำทางก็ไม่ได้ เหมือนหมานั่งเรือ "
" ทำไมฉันต้องจำในเมื่อ ฉันจะไปไหน เธอก็พาไป จำทำไมเปลืองสมอง" หรือ
ตอนคุณตาเอาตัวหนอนไหมมาทอดให้คุณยายกิน บอกว่า
" นี่เธอกินหนอนไหมนี่มันมีโปรตีนสูงบำรุงสมองทำให้ฉลาด"
หนอนไหมที่คุณตาเอามา พอคั่วแล้วเหมือนแมลงสาบตัวเล็กๆที่ไม่มีปีกก็ไม่ปาน เห็นแล้วคุณยายเมินก่อนตอบว่า
" ฉันยอมโง่ ไม่กินหรอก"
" อะไรนี่ของดีๆเอามาให้กิน ครูโง่สอนเด็กๆก็โง่สิ"
" เออช่างฉัน ฉันให้เธอฉลาดไปคนเดียว อย่างน้อยฉันก็ฉลาดอยู่อย่างหนึ่งล่ะ"
" อะไรล่ะ"
" ฉลาดที่หาสามีดีได้ไงล่ะ " แล้วคุณยายก็เดินหนีหนอนไหมไป ไม่ยอมกิน
"ว่าแล้ว เก่งอยู่เรื่องเดียวแหละ" แล้วคุณตาก็หัวเราะคุณยาย ที่คุณยายยกให้คุณตาฉลาดกว่า เก่งกว่าเสมอ
แล้วกว่าคุณยายคนขี้เหนียวกับคุณตาที่ใจดีนี้จะรักกันได้อย่างไร เพราะคุณยายไม่มีคุณสมบัติของผู้หญิงแบบที่หนุ่มๆใฝ่ฝันสักนิดเดียว พูดจาตรงๆ ที่ใครๆเรียกว่าขวานผ่าซาก ไม่อ่อนโยน และทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง แม้จะหน้าตาน่ารักเมื่อตอนสาวก็ตาม
ท่านทั้งสองเจอกันได้อย่างไร คู่ที่แตกต่าง ที่สามารถถนอมชีวิตคู่ของตัวเองได้จนทุกวันนี้….
คุณยายเล่าว่า……...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น